15 มิถุนายน 2558

Trip " Windsor Castle, Stonehenge & Bath " ( ตอนที่ 2 )

Day 2 : Bath 
มาต่อกันเลยวันที่ 2 หลังจากพักผ่อนนอนสบาย ที่ Bed&Breakfast 
แถวชานเมืองบาธ เช้านี้หลังจากจัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อย 
เราก็เริ่มสำรวจเมืองกันเลย 
วันนี้อากาศออกจะอึมครึมเล็กน้อย 
แต่ก็ดีที่ไม่มีฝนไม่งั้นคงเดินไม่สนุก เราขับรถเข้าไปในตัวเมืองบาธ 
และหาที่จอดรถซึ่งก็มีทั้งแบบคิดเป็นรายชม. และแบบคิดเหมาทั้งวัน 
ซึ่งเราก็เลือกแบบเหมาทั้งวัน เพราะน่าจะถูกกว่าและ 
จะไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา จากนั้นก็เดินสำรวจกันเลย 
เมืองบาธเป็นเมืองที่ขนาดกะทัดรัด สถานที่สำคัญๆก็อยู่ในละแวกใกล้กัน 
เดินกันถึง สะดวกมากๆ 
 แต่เนื่องจากเราออกตัวเช้าไปหน่อยและกอรปกับเป็นเช้าวันอาทิตย์ 
บางสถานที่จึงยังไม่เปิด ร้านรวงต่างๆก็ยังไม่เปิด 
เราจึงเลือกเดินลัดเลาะเยี่ยมชมเมือง สวน อย่างเงียบๆ 
 
เกร็ดความรู้กันซักหน่อย : 
เมืองบาธเป็นเมืองน้ำพุร้อน ที่ถูกค้นพบโดยชาวโรมันที่เข้ามาตั้งแต่สมัย 
2000กว่าปีโน่น ปัจจุบันยังคงพบเห็นศิลปะยุคโรมันหลงเหลืออยู่ อย่าง 
โรมันบาธ  จึงไม่แปลกที่บาธได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก
 
วิวมองเห็น Pulteney Bridge
บรรยากาศยามเช้านี่สดชื่น พอช่วงสายเริ่มมีแดด 
ทำให้การถ่ายรูปของเราง่ายขึ้นกับวิวแม่น้ำ Stratford upon Avon. 
 ได้เวลาแวะชมด้านในกันเริ่มที่ โรมันบาธ
 




























 ออกมาจาก โรมันบาธ ก็จะพบวิหารใหญ่ประจำเมืองบาธ " Bath Abbey "  
เป็นแนวสไตล์ Victorian Gothic

































































 ด้านข้างของ Bath Abbey มีสวนให้เดินเล่น Parade Garden


หลังจากเดินกันมาสักพักก็แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้าน Ole Tapas 
อาหารรสชาดดี ราคาเหมาะสม ร้านน่ารัก เมนูที่ชอบเป็นพิเศษคือ 
มะเขือม่วงทอดแบบเทมปุระจิ้มกับซอส dark Spanish honey และของหวานคือ ชูโร (
 Chocolate con Churros) 
 
อิ่มท้องแล้ว ก็เดินชมเมืองกันต่อ และก็เดินมาถึง The Circus และ Royal Crescent 
  
 จริงๆยังมีอีกหลายที่ในเยี่ยมชมอย่างตลาดซึ่งปิดในวันที่เราไป พิพิธภัณฑ์แฟชั่น หรือถ้าใครชื่นชอบนิยายแนวโรแมนติกของเจน ออสติน( Jane Austen) ก็แวะชมได้ที่   Jane Austen Center 
 
ร้านรวงน่ารักๆ



เดินไปเดินมาก็บ่ายคล้อย 
สมควรแก่เวลาที่เราต้องลาเมืองบาธ แม้จะอยากอยู่ต่ออีกนิด 
แต่เพราะไม่อยากฝ่าการจราจรอันคับคั่งของเย็นวันอาทิตย์ที่ผู้คนที่ต้องกลับ
เข้ามาในเมืองเพื่อเริ่มงานในเช้าวันจันทร์ 
 
 ทริปนี้คงจะจบแบบแฮ้บปี้ 
ถ้าไม่สะดุดที่ตอนเราเอารถไปคืนบริษัท 
จากที่เล่าตอนต้นว่าคุณบอสต้องแวะเติมน้ำมันทันทีหลังจากขับออกมาเพราะ
น้ำมันที่มีนั่นเล็กน้อย เราจึงคืนรถด้วยปริมาณเดียวกันกับตอนแรก 
แต่กลับถูกพนักงานรับรถแจ้งว่าเราต้องเติมให้เต็ม 
ทั้งเราและคุณบอสจึงอธิบาย แต่ยังไงพนักงานก็ไม่ยอม 
บอกว่าถ้าหากน้ำมันตอนรับรถไม่เต็มเราต้องแจ้งเค้าแต่แรกทันที 
อันนี้เราก็ไม่เฉลียวใจ แต่นั่นแหละงานนี้ใครจะยอม 
ในเมื่อเราก็ไม่ได้คิดจะโกงใคร 😕 ดีนะที่เราเก็บใบเสร็จเอาไว้ 
ซึ่งระบุทั้งจำนวนลิตรของน้ำมันที่เติมและราคา 
คุณบอสจึงเอาไปยืนยันกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ด้านใน รอกันอยู่พักใหญ่ 
จึงจะเรียบร้อยโดยเราไม่ต้องจ่ายหรือเติมน้ำมันเพิ่ม 
ที่เขียนเล่าเผื่อใครจะได้ตรวจตราก่อน หากเลือกใช้การขับรถ 
จะได้ไม่ต้องประสบเหตุการณ์อย่างเรา 
 
และแล้วถึงที่พักทุ่มกว่า กินมื้อเย็นง่ายๆก็เอนกายนอน ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่ อย่าลืมติดตามกันนะ Smiling face with smiling eyes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น