14 มิถุนายน 2558

Trip " Windsor Castle, Stonehenge & Bath " ( ตอนที่ 1 )

 
ทริป Windsor Castle, Stonehenge & Bath 
 
วันนี้ขอเริ่มต้นแชร์ประสบการณ์การเดินทาง กับทริบที่เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้ 
ไหนๆก็ต้องย้ายตามคุณบอสที่บ้านมาอยู่ที่ลอนดอนสัก2-3เดือน 
ถือโอกาสนี้เก็บเที่ยวรายทางกันเลยดีกว่า
ทริปนี้นอกจากจะมีคุณบอสที่บ้านที่ถือว่าเป็นขาประจำทริปแล้ว ยังมีแขกพิเศษ 
มามี้ของคุณบอสมาร่วมทริปด้วย เพราะช่วงที่เราเลือกเดินทางนั้นใกล้กับวันแม่ของชาวฝรั่งเศส 
และท่านก็แวะมาเยี่ยมเราพอดีเลยจัดทริปเซอร์ไพรซ์ซะเลย 
ทริปนี้จัดไป2วัน1คืน 
พอมีสมาชิก 3 คน เราจึงเลือกเดินทางด้วยรถเพราะคิดว่าสะดวกกว่า 
อยากแวะที่ไหนก็ง่ายและน่าจะประหยัด
เริ่มต้นด้วยการหาเช่ารถ เราก็เลือกแบบง่ายๆคือ เซิร์ชจากอินเตอร์เน็ต 
ก็มีให้เลือกอยู่หลายบริษัททั้ง avis , europcar, hertz ฯ 
ราคาก็มีหลายระดับตามแต่ชนิดของรถที่เราเลือก ราคาเช่ารถต่อวันนั้นไม่แพงเท่าไหร่
แต่พอรวมค่าประกันภัยนี่ ราคาก็ขึ้นมาพอสมควรทีเดียว ครั้งนี้เราตัดสินใจเลือก europcar 
เพราะ avis บริษัทที่เราเลือกใช้บริการบ่อยๆที่เมืองไทยนั้นถูกจองเต็มหมดแล้ว
 
พอจองรถได้ ก็มองหาที่พักกัน ถ้าพูดกันตรงๆที่พักที่ยุโรปนี่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับเอเชียบ้านเรา 
เพราะเราจองห้องที่ Bed&breakfast ห้องสแตนด์ดาร์ด 
แต่จ่ายเท่าราคาโรงแรมสี่-ห้าดาวที่บ้านเรา ตอนจองก็แอบเสียดายตังค์ Loudly crying face 
 
พอได้ที่พักเรียบร้อย ก็มานั่งหาข้อมูลคร่าวๆสำหรับทริป ไม่ได้แพลนจริงจัง
เพราะไม่ใช่วิสัยของเราและคุณบอส 
หาแค่สถานที่ที่เป็นไฮไลท์ สถานที่ไหนไปครั้งแรกก็ต้องไปตามจุดสำคัญๆของแต่ละที่นั้นก่อน 
หากมีโอกาสได้ไปครั้งที่สองหรือสามก็ค่อยหาที่ unseen Smiling face with smiling eyes
ส่วนจะไปไหนก่อนหลังนั้นก็ไปประเมินเอาวันเดินทางกัน ทริปเดินทางจะได้ไม่ตึงเครียด 
ไปเที่ยวนี่เนอะจะมาตีกรอบเวลาทำไม ถึงไหนแวะนั่นกินนี่ ชิลล์กันไป 
 
เม้าท์ซะนานเชียว ยังไม่ได้ใจความ รูปภาพของทริปนี้เลย งั้นเริ่มเลยล่ะกัน
  


Day 1
 
ทริปนี้เราเดินทางกันเช้าวันเสาร์ กลางเดือนพฤษภา ซึ่งปีนี้เราว่าเราค่อนข้างโชคดี
เพราะที่อังกฤษซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอึมครึมของดินฟ้าอากาศนั้นกลับเริ่มมีแดด 
ให้สมกับย่างเข้าหน้าดอกไม้บานสักหน่อย 
แวะรับรถกันที่บริษัทใกล้สถานีรถไฟคิงครอส (ซึ่งจริงๆก็แอบไกลนะ เดิน10-15นาที) 
 เพราะเกิดความสับสนกับสถานที่รับรถเล็กน้อย 
ทำให้เราไปถึงตัวบริษัทรถค่อนข้างช้า 
กว่าจะได้รถต้องกรอกเอกสารมากมายถึงแม้เราจะได้จองทางอินเตอร์เน็ตมาแล้ว 
พอได้รถจริงๆด้วยคุณบอสจองประกันภัยแบบครอบคลุมทุกอย่าง 
พนักงานที่ส่งรถก็บอกเราว่าคงไม่ต้องตรวจสภาพรถอะไรมากเพราะยังไงประกันก็
ครอบคลุมและเราก็ไม่อยากเลทไปกว่านี้เลยจัดแจงข้าวของขึ้นรถ 
ขับออกมาได้แค่หัวมุมถนนคุณบอสบอกเราว่าต้องเติมน้ำมันก่อนไม่งั้นไปไม่ถึง
ไหน เราก็แปลกใจเพราะบริษัทน่าจะเติมก่อนนำมาให้ลูกค้า 
เพราะบริษัทเองยังย้ำให้เราเติมกลับมาให้เท่าเดิมด้วย. 
แต่เมื่อช้าแล้วก็ไม่อะไรแวะเติมน้ำมัน ทริปเราเป็นอันเริ่มต้นจริงๆ
 
การขับรถในลอนดอนนี่ค่อนข้างยาก ถ้าไม่ใช่คนท้องที่นี่ 
ขอแนะนำให้มีเครื่อง GPS จะดีกว่าเพราะชีวิตของท่านจะง่ายขึ้นเยอะ
 
ที่แรกที่เราจะแวะคือ พระราชวังวินด์เซอร์ ( Windsor Castle  ) 
เพราะอยู่ในเส้นทางพอดี ขับไปโดยใช้สาย M4 ใช้เวลาประมาณ 50 นาที 
เราไปถึงที่วินด์เซอร์เกือบเที่ยง 
ก็แวะทานมื้อเที่ยงซึ่งก็เป็นแซนด์วิชธรรมดา 
ครั้งนี้เราไม่ได้เข้าชมในตัวพระราชวังเพราะถ้าจะเข้าเราต้องรอประมาณบ่ายสอง 
จึงได้แค่เดินดูรอบๆวังและเมือง
  

Windsor Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก 
(นับเฉพาะตัวปราสาท) เป็นสถานที่พักของราชวงศ์อังกฤษมาอย่างยาวนานเกือบ 
1,000 ปีเลยทีเดียว

เวลาให้บริการ
 เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.45 – 17.15 (Last Admission 16.00)
เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.45 – 16.15 (Last Admission 15.00)
หมายเหตุ เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละปี ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเข้าชม



เดินเล่นประมาณชม. นึงเราก็ออกเดินทางต่อ สถานที่ต่อไปคือ 
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge ) 
อยู่ที่เมือง Salisbury 
เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ควรเยี่ยมชม เราไปถึงประมาณสี่โมงเย็น 
ซึ่งก็เกือบไม่ทันเข้าชมรอบสุดท้าย 
ที่นั่นจะมีรถรับส่งจากตรงเคาน์เตอร์ขายบัตรไปยังกองหิน  
ซึ่งก็เหมาะกับผู้เดินทางที่สูงอายุและเราที่มาช้าได้เข้าชมทันเวลา 
ส่วนถ้าใครมีเวลาก็สามารถเดินชมบรรยากาศไปเรื่อยระหว่างทางเดินไปยังกองหิน
ได้ บริเวณโดยรอบก็จะเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง 
 

ดูจากรูปข้างบนเหมือนหินธรรมดา ๆ แต่จริงๆคือ
หินกว่า 30 ตัน / ก้อน ตั้งแต่ 2500 ปีก่อนปี คศ. ทำให้เห็นถึงแรงศรัทธาของมนุษย์สมัยนั้นที่สามารถลากหินมา และยกหินประกอบขึ้นมาได้แบบนี้ ทั้งๆที่ไม่มีอุปกรณ์ทันสมัย และนี่แหละคือเสน่ห์ของปริศนาที่ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้
 

  จบทริปวันแรกที่ Stonehenge คืนนี้เราแวะนอนที่ชานเมืองบาธ อย่าลืมติดตามทริป Day 2: เที่ยวบาธกันนะ :)

 ( Day 2 ทริปบาธ   : คลิ๊กลิงค์ด้านล่าง
http://cookie-dew.blogspot.de/search/label/%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%20Bath )

 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น