ร้างลาการรีวิวทริปมาพักใหญ่ เมื่อหนึ่งในเพื่อนรักอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลแวะมาเยี่ยมเยือน ก็ต้องจัดกันสักทริป เราอาจจะไม่ได้เรียงลำดับวันการเดินทางแต่จะพยายามทยอยรีวิวสถานที่ ที่ได้ไปเยือนให้ครบ
ที่แรก เรามาเริ่มกันกับปราสาทที่เป็นที่รู้จักกันดี จากการเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทราของดิสนีย์แลนด์อันโด่งดัง
เนื่องจากทริปนี้เราเดินทางด้วยกัน 3 คน จึงเลือกที่จะขับรถกันไปจากแฟรงค์เฟิร์ต ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. แต่ถ้าใครจะเดินทางด้วยรถไฟก็สะดวก นั่งจากสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ตไปยังสถานีรถไฟมิวนิค (Frankfurt Hbf - Munchen Hbf) ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
(ถ้าจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ราคาตั๋วจะถูกกว่า สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทางเว็บไซด์
http://www.thetrainline-europe.com/train/frankfurt-to-munich~8096021~8000261 , https://www.raileurope.com/european-trains/ice/how-to-book.html)
http://www.thetrainline-europe.com/train/frankfurt-to-munich~8096021~8000261 , https://www.raileurope.com/european-trains/ice/how-to-book.html)
จากมิวนิคนั่งรถไฟต่อไปยังสถานีรถไฟฟูเซ่น (Fussen) ต่อรถบัสไปที่หมู่บ้าน โฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau village) แล้วจึงค่อยขึ้นต่อไปยังตัวปราสาท
ซึ่งก่อนจะเข้าชมปราสาท เราต้องแวะซื้อตั๋วที่ศูนย์จำหน่ายตั๋วด้านล่าง การเข้าชมปราสาทจะต้องผ่านไกด์ทัวร์เท่านั้น ใช้เวลาโดยประมาณ 35 นาทีต่อรอบ
( ถ้าจะให้ดีควรจองตั๋วล่วงหน้าหากเพื่อนๆมีเวลาจำกัด จะได้ไม่พลาดการเข้าชม ส่วนราคาตั๋วมีให้เลือกหลายแพคเกจ สามารถดูข้อมูลได้ : http://www.neuschwanstein.de/englisch/tourist/ )
พอได้ตั๋วเรียบร้อยก็สามารถแพลนกิจกรรมต่อไปกันได้ สำหรับเรามีเวลากันจำกัดจึงเลือกที่จะเข้าชมแค่ปราสาทนอยชวานสไตน์ ส่วนปราสาทที่เหลือ ขอเยี่ยมชมแค่ด้านนอกและเดินเล่นเก็บภาพไปเรื่อยๆดีกว่า
การจะไปให้ถึงตัวปราสาทนอยชวานสไตน์ก็มีให้เลือกอีกว่า จะเดินเล่นกินลมชมวิวขึ้นไปเรื่อยๆ หรือจะนั่งรถม้าซึ่งสนนราคาอยู่ที่คนละ ~ 5 ยูโร หรือ ถ้าถูกหน่อยก็สามารถนั่งรถบัสขึ้นไป ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอเลือกแบบไม่เหนื่อยแล้วก็ได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆกับการนั่งรถม้าขึ้นไป
(ปล. ม้าที่นี่ตัวใหญ่กว่าที่เมืองไทยมาก :) )
ลงจากรถม้าเราก็เดินต่อขึ้นไปอีกหน่อยกว่าจะถึงตัวปราสาท น่าเสียดายเรามาถึงช่วงบ่ายทำให้รูปที่ถ่ายกับตัวปราสาทมืดดำไปนิด แต่ก็ยังเห็นความอลังการของตัวปราสาท
ปราสาทนี้สร้างโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เพื่อหวังให้เป็นที่ประทับห่างผู้คน ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ และอีกนัยนึงทรงสร้างปราสาทให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง "อัศวินหงษ์" อุทิศให้แก่กวี ชื่อริชาร์ด วิกเนอร์ ซึ่งเป็นกวีที่โปรดปรานเป็นพิเศษเมื่อสมัยยังเยาว์วัย จากสไตล์การแต่งเนื้อหาโอเปร่าที่เต็มไปด้วยอุดมคติและจินตนาการแบบเทพนิยาย ภายในปราสาทจึงได้รับการตกแต่งไปตามเรื่องราวในบทประพันธ์ โดยนักออกแบบทางการละคร ชื่อ คริสเตียน แจงค์ น่าเสียดายภายในปราสาทไม่อนุญาตให้เราถ่ายรูป เลยได้แต่เก็บภาพความสวยงามภายนอกปราสาทมาฝากกัน
เดินชมกันพอหอมปากหอมคอ เราก็ออกมาเดินเล่นกันต่อด้านนอก หากเดินเลยไปด้านข้างปราสาทอีกหน่อย จะพบกับสะพาน มาเรียนบรุ๊คหรือ อีกชื่อคือ แมรี่บริดจ์ ที่เราสามารถเก็บภาพตัวปราสาทได้เต็มๆทั้งปราสาท แต่น่าเสียดายครั้งที่ 2 ของทริปนี้ วันที่เราไปเค้าทำการปิดซ่อมสะพาน
ขากลับลงจากปราสาทเราเลือกที่จะเดินชมวิวกันมาเรื่อยๆ เพราะยังพอมีเวลาเหลือ เราเดินต่อกันไปที่ทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ, พิพิธภัณฑ์บาวาเรียน และเลยไปจนถึงปราสาทโฮเฮนชวานเกา ( Hohenschwangau castle )
ทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ |
พิพิธภัณฑ์บาวาเรียน |
ปราสาทโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau castle |
ก่อนที่จะออกเดินทางกันต่อ ไปยังเมืองมิวนิค GPS เกิดผิดพลาดกันเล็กน้อย เพราะทางที่ GPS เลือกให้ ดันมีการปิดทางซ่อมแซม ทำให้เสียเวลากันไปนิดหน่อย แต่อย่างน้อยเราก็ได้เก็บภาพความงามของปราสาทอีกมุมนึงพร้อมกับภาพโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ
ทริปหน้าจะมารีวิวเมืองมิวนิคอย่าลืมติดตามกัน